การคำนวณภาษีอาจจะดูเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคน แต่จริง ๆ แล้วการคำนวณภาษีไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลและซับซ้อนเกินไป หากคุณรู้จักวิธีการและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับภาษีอย่างถูกต้อง การยื่นภาษีให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพในปี 2025 สามารถช่วยลดภาระทางการเงินได้มากขึ้น และยังสามารถใช้โอกาสในการหักลดหย่อนเพื่อประหยัดภาษีได้อย่างเต็มที่

วิธีการคำนวณภาษี จะช่วยให้คุณรู้ว่าเงินเดือนที่คุณได้มาต้องเสียภาษีเท่าไหร่
สิ่งที่คุณจะได้จากบทความนี้มีอะไรบ้าง?
- วิธีการคำนวณภาษี: จะช่วยให้คุณรู้ว่าเงินเดือนที่คุณได้มาต้องเสียภาษีเท่าไหร่ และทำอย่างไรให้ภาษีที่ต้องจ่ายน้อยที่สุด
- วิธีการลดหย่อนภาษี: เคล็ดลับการหักลดหย่อนภาษีที่คุณสามารถทำได้ในปี 2025
- ทำความเข้าใจการยื่นภาษี: ให้คุณรู้ว่าการยื่นภาษีต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เสียเวลาหรือโดนค่าปรับ
- คำแนะนำสำหรับมือใหม่: พร้อมสำหรับการยื่นภาษีในปีแรก ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
วิธีคำนวณภาษีปี 2025
การคำนวณภาษีเป็นขั้นตอนสำคัญในการจัดการการเงินของเรา โดยการคำนวณภาษีขึ้นอยู่กับ รายได้ทั้งหมด และ การหักลดหย่อนภาษี ตามที่กฎหมายกำหนด
1. คำนวณรายได้สุทธิ
คุณต้องคำนวณรายได้สุทธิจากการทำงาน (รวมเงินเดือน รายได้เสริม เงินโบนัส ฯลฯ) ซึ่งจะเป็นฐานในการคำนวณภาษี
2. หักลดหย่อนภาษี
หลังจากที่คุณคำนวณรายได้ทั้งหมดแล้ว คุณสามารถใช้ การหักลดหย่อน เพื่อลดจำนวนภาษีที่ต้องจ่าย โดยหักค่าลดหย่อนที่คุณมีสิทธิ์ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) หรือ RMF
3. คำนวณภาษีที่ต้องจ่าย
หลังจากหักค่าลดหย่อนแล้ว จะได้รายได้สุทธิที่ต้องเสียภาษี ซึ่งจะมีการคิดอัตราภาษีตามอัตราก้าวหน้า (Progressive Tax) ของกรมสรรพากร โดยที่ภาษีจะถูกคำนวณเป็นอัตราร้อยละที่เพิ่มขึ้นตามรายได้
ตัวอย่าง:
- รายได้สุทธิ 150,000 บาท -> ภาษี 5%
- รายได้สุทธิ 300,000 บาท -> ภาษี 10%
- รายได้สุทธิ 500,000 บาท -> ภาษี 15%

วิธีลดหย่อนภาษี ด้วยการลงทุนมีอะไรบ้าง?
การลงทุนไม่เพียงแค่เป็นการสร้างผลตอบแทน แต่ยังช่วย ลดภาระภาษี ได้ดีมาก โดยเฉพาะการลงทุนใน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) และ กองทุนรวม (LTF/RMF) ซึ่งสามารถลดหย่อนภาษีได้มาก
1. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund)
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นสวัสดิการที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันส่งเงินเข้ากองทุนตามอัตราที่ตกลงกันไว้ (เช่น 5%–15% ของเงินเดือน) เพื่อเป็นเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณ
สิทธิประโยชน์ทางภาษี:
- ลูกจ้างสามารถนำเงินสะสมของตนเองไปหักลดหย่อนภาษีได้
- สูงสุด ไม่เกิน 15% ของรายได้ทั้งปี และ ไม่เกิน 500,000 บาท
2. กองทุนรวมเพื่อการออมระยะยาว (RMF)
การลงทุนใน LTF และ RMF ช่วยให้คุณสามารถหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 500,000 บาท ต่อปี
- RMF เหมาะสำหรับคนวางแผนเกษียณ เพราะต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปีจนถึงอายุ 55 ปีขึ้นไป
- SSFX (Super Savings Fund Extra) และ กองทุนประเภทอื่น ๆ ที่รัฐกำหนดในช่วงเวลาหนึ่ง ก็สามารถใช้ลดหย่อนได้
สิทธิประโยชน์ทางภาษี:
- รวมทุกกองทุนลดหย่อนได้ สูงสุด 30% ของรายได้
- และ ไม่เกิน 500,000 บาท/ปี
3. ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย (Home Loan Interest)
หากคุณซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยสินเชื่อธนาคาร (เช่น Mortgage Loan) ดอกเบี้ยที่คุณจ่ายในแต่ละปีสามารถใช้หักลดหย่อนภาษีได้
สิทธิประโยชน์ทางภาษี:
- หักได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี
- เฉพาะดอกเบี้ย (ไม่รวมเงินต้น)
- ต้องมีเอกสารรับรองจากธนาคาร
4. การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย
แม้การซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไรจะไม่ได้ลดหย่อนภาษีโดยตรง แต่ถ้าเป็น “บ้านหลังแรก” และมีการกู้เงินซื้อ สามารถใช้ประโยชน์จากการหักดอกเบี้ยได้ตามข้อ 3
กรณีเพิ่มเติม:
- ถ้าซื้อบ้านจากโครงการรัฐหรือมีนโยบายส่งเสริม (เช่น มาตรการบ้านหลังแรก) อาจได้รับ ภาษีคืนบางส่วนตามเงื่อนไขพิเศษของปีนั้น ๆ
- ต้องศึกษามาตรการภาษีที่ออกเป็นช่วง ๆ
นอกจากการลงทุนที่เราพูดถึงแล้ว อีกวิธีหนึ่งที่นิยมมากในตอนนี้คือการใช้ E-Receipt ที่คุณสามารถเก็บไว้จากการซื้อสินค้าหรือบริการต่าง ๆ เพื่อหักลดหย่อนภาษี! การเก็บใบเสร็จแบบดิจิทัลจะช่วยให้คุณจัดการกับการหักลดหย่อนภาษีได้ง่ายและสะดวกขึ้นมาก
หากสนใจสามารถอ่านต่อเกี่ยวกับวิธีใช้ E-Receipt ลดหย่อนภาษี เพื่อให้คุณไม่พลาดการใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีนี้ได้อย่างเต็มที่
สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ ก่อนลงมือที่จะช่วยให้การยื่นภาษีของคุณไม่ยุ่งยาก
ก่อนที่คุณจะเริ่มยื่นภาษีและใช้การหักลดหย่อนภาษีในปี 2025 คุณต้องเข้าใจเรื่องสำคัญต่อไปนี้:
1. ต้องมีเอกสารที่ครบถ้วน
การยื่นภาษีให้ถูกต้องและได้รับสิทธิ์ลดหย่อนเต็มที่ ต้องมีหลักฐานประกอบที่ครบถ้วนและถูกต้อง โดยเฉพาะในกรณีที่คุณใช้สิทธิลดหย่อนจากการลงทุนหรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
ตัวอย่างเอกสารสำคัญ ได้แก่:
- หนังสือรับรองเงินเดือน หรือใบ 50 ทวิ (จากนายจ้าง)
- หนังสือรับรองการลงทุนใน RMF, SSF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund)
- ใบเสร็จ/เอกสารจากธนาคารเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้บ้าน
- เอกสารการบริจาค, ประกันชีวิต, ประกันสุขภาพ ฯลฯ
หากเอกสารไม่ครบ คุณจะไม่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้ และอาจต้องเสียภาษีมากขึ้นโดยไม่จำเป็น
2. อัปเดตข้อมูลทุกปี
การอัปเดตข้อมูล เช่น รายได้ใหม่ กองทุนที่เปลี่ยนแปลง หรือสถานะส่วนตัว (สมรส, มีบุตร ฯลฯ) เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้การคำนวณภาษีและสิทธิ์ลดหย่อนในปีนั้นถูกต้อง
- หากคุณเปลี่ยนที่ทำงาน ควรตรวจสอบว่าได้รับ ใบ 50 ทวิ จากทุกบริษัท
- หากมีลูกเกิดใหม่ หรือซื้อประกันเพิ่ม ต้องแจ้งและเก็บเอกสารให้พร้อม
- หากเปลี่ยนที่อยู่อาศัย ควรอัปเดตในระบบ e-Filing ด้วย
ระบบของกรมสรรพากรจะใช้ข้อมูลล่าสุดในการคำนวณภาษี ดังนั้นข้อมูลล้าสมัยอาจทำให้เสียสิทธิ์บางส่วนโดยไม่รู้ตัว
3. อย่าลืมวันที่ยื่นภาษี
การยื่นภาษีมี กำหนดเวลาชัดเจนทุกปี ซึ่งหากพลาดจะมี ค่าปรับและเงินเพิ่ม (ดอกเบี้ย)
สำหรับบุคคลธรรมดา:
- ยื่นภาษีปี 2567 (รายได้ปี 2566): ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568
- หากยื่นออนไลน์ผ่านระบบ e-Filing สามารถขยายเวลาได้ถึง 8 เมษายน 2568 (ขึ้นอยู่กับประกาศแต่ละปี)
หากเลยกำหนด จะถูกปรับสูงสุด 2,000 บาท และมีดอกเบี้ยเงินเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือนจากภาษีที่ยังไม่ได้จ่าย
แนะนำ: ตั้ง Reminder ในปฏิทินมือถือ หรือสมัครรับแจ้งเตือนจากเว็บไซต์กรมสรรพากรเพื่อไม่พลาดกำหนด
คำแนะนำการยื่นภาษีสำหรับมือใหม่
หากคุณเพิ่งเริ่มต้นทำงานหรือเป็นฟรีแลนซ์ และยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการยื่นภาษี การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการคำนวณภาษีและการใช้เครื่องมือหักลดหย่อนจะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น
- การลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด หากบริษัทของคุณมีโปรแกรมนี้
2. การลงทุนในกองทุนรวม (LTF/RMF) เป็นอีกทางเลือกที่ง่ายและปลอดภัย สำหรับฟรีแลนซ์และคนที่ไม่มีบริษัท
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการยื่นภาษี
A: ขึ้นอยู่กับฐานรายได้ของคุณ และการหักลดหย่อยต่างๆ โดยการคำนวณภาษีจะถูกคิดจากรายได้หลังหักลดหย่อน
A: คุณสามารถหักลดหย่อนภาษีจากการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้สูงสุดถึง 15% ของรายได้ต่อปี
A: การซื้อบ้านและจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ โดยต้องมีเอกสารการผ่อนชำระอย่างถูกต้อง
A: หากคุณไม่ยื่นภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนด จะมีค่าปรับตามกฎหมาย ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เช่น ค่าปรับตามรายได้ที่ไม่ได้ยื่นหรือดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพิ่มเติม ดังนั้นควรยื่นภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนดเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียค่าปรับ
การยื่นภาษีอาจจะดูยุ่งยากในตอนแรก แต่ถ้าคุณเข้าใจวิธีการคำนวณและการหักลดหย่อนภาษีต่างๆ แล้ว คุณจะสามารถประหยัดภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพในปี 2025! อย่ารอช้า มาเตรียมตัวให้พร้อมกับการยื่นภาษีในปีนี้ พร้อมใช้ประโยชน์จากการลงทุนและการวางแผนการเงินเพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับอนาคตการเงินของคุณ!
หากคุณกำลังมองหางานใหม่ หรือแค่ต้องการคำแนะนำดีๆ เพื่อพัฒนาอาชีพของคุณ Jobtopgun มีตำแหน่งงานมากมายที่รอคุณอยู่ พร้อมบทความและคำแนะนำที่จะช่วยให้ชีวิตการทำงานของคุณราบรื่นและประสบความสำเร็จมากขึ้น!
อ้างอิงข้อมูลประกอบบทความ:
- กรมสรรพากร – สืบค้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 จาก //www.rd.go.th/272.html